THE END EP.4 : อนาคตของมนุษย์
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน มนุษย์เราวิวัฒนาการให้สามารถย่อยนมวัวได้ เมื่อ 150 ปีที่แล้ว ค่าเฉลี่ยความสูงของมนุษย์สูงขึ้นราว 10 เซนติเมตร และแค่ 65 ปีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยอายุขัยของมนุษย์เราเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 20 ปี
นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาให้สมองของคอมพิวเตอร์สามารถคำนวณและทำงานได้รวดเร็วเทียบเท่ากับความสามารถของสมองมนุษย์ นั่นจะทำให้มนุษย์ในอนาคตนำเอานาโนโรบอท เข้ามาช่วยในการทำงานของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านเซลล์มะเร็ง ช่วยพัฒนาระบบภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
อีก 1,000 ปีข้างหน้า ภาษาที่มีมากมายหลากหลายบนโลก จะเหลือเพียงไม่กี่ภาษา และด้วยอุณหภูมิของโลกและปริมาณรังสียูวีที่สูงขึ้น มนุษย์เราจะวิวัฒนาการสีผิวให้เข้มขึ้น เพื่อปกป้องเราจากรังสียูวี ร่างกายก็จะสูงและผอมมากขึ้นด้วย ช่วยในการระบายความร้อน นอกจากนี้การกลายพันธุ์ของยีนแบบใหม่ๆ จะปรากฏขึ้น เราอาจจะมีสีผมใหม่ๆ ได้อีกด้วย
อีกล้านปีข้างหน้า รายงานจาก Brian Greene จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในนครนิวยอร์กชี้ว่า มนุษย์เราจะต่างไปจากเดิมจนมนุษย์ในปัจจุบันจำมนุษย์ในอนาคตไม่ได้เลยทีเดียว โดยหนทางที่เป็นไปได้ที่สุดก็คือการผนวกชีวิตเข้ากับเครื่องจักรกล "เราอาจเห็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นลูกผสมระหว่างสิ่งมีชีวิตกับเครื่องจักร"
และในมุมมองของเขา เมื่อถึงเวลานั้นมนุษย์น่าจะสามารถไขปริศนาเกี่ยวกับกฎฟิสิกส์ได้แล้ว และนั่นจะทำให้เกิดคำถามใหม่ๆ ตามมา Greene ยกตัวอย่างในสมัยก่อนคลื่นความโน้มถ่วงยังคงเป็นที่ถกเถียง แต่ในปัจจุบันเราค้นพบกระทั่งทฤษฎีการกำเนิดจักรวาลแล้ว หรือในอนาคตนักวิทยาศาสตร์อาจพบคำตอบใหม่ๆ แทนที่องค์ความรู้แบบเดิมๆ เช่นที่ Johannes Kepler นักดาราศาสตร์ชาวเยอรมันใช้เวลาหลายสิบปีในการหาคำตอบว่าทำไมโลกจึงอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ราว 150 ล้านกิโลเมตร ซึ่งในปัจจุบันเราพบคำตอบแล้วว่ามันเป็นเพียงความบังเอิญ
หรือแม้แต่การอ่ศัยในต่างดาว ความพยายามของมนุษย์ที่จะหาดาวเคราะห์คล้ายโลกเพื่อหาสิ่งชีวิตบนดาวอื่นๆ นั่นอาจทำให้เราได้โลกใบใหม่ ซึ่งอาจมีปัจจัยเอื้อชีวิตที่ต่างไปจากโลก ทั้งแรงโน้มถ่วง กลางวันกลางคืน ปริมาณธาตุต่างๆ จะทำให้มนุษย์ต้องมีวิวัฒนาการเพื่อให้สามารถดำรงอยู่ซึ่งสภาวะที่ต่างออกไป
อ้างอิง
- National Geographic
- sciencealert
Commenti